แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของคิวชู (Kyushu)

 อุมิโนะนะกะมิจิ ซีไซด์พาร์ค (Uminonakamichi Seaside Park), ฟุคุโอกะ (Fukuoka)

  อุมิโนะนะกะมิจิ ซีไซด์ปาร์ค (Uminonakamichi Seaside Park) เป็นสวนสาธารณะเอนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่เดินทางไปจากใจกลางเมืองฟุคุโอกะ (Fukuoka City) ได้อย่างสะดวกสบาย โอมล้อมด้วยทะเลและมีความยาวรอบด้านทั้งหมดถึง 6 กิโลเมตร ภายในบริเวณสวนมีจุดชมดอกไม้หลายแห่งที่สามารถเที่ยวชมได้ในทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีสวนสัตว์ สวนน้ำ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนเด็กเล่น สนามเทนนิส สนามกอล์ฟ เป็นต้น รวมถึงบริการเช่าจักรยาน และร้านอาหารอีกด้วย ในฤดูใบไม้ร่วงโซนเนินดอกไม้ฮะนะโนะโอะกะ (Hana no Oka) อันกว้างใหญ่ก็จะแน่นขนัดไปด้วยดอกดาวกระจาย (Cosmos) สีสันสดใสไปทั่วบริเวณ สลับสีสันด้วยดอกพลับพลึงแดง (Red Spider Lily) ที่จะผลิดอกสีแดงเข้มสวยสะกดสายตาในช่วงเดียวกัน ส่วนในฤดูใบไม้ผลินั้นสามารถชมดอกซากุระที่มีมากกว่า 1,000 ต้น และยังมีสวนต้นเนโมฟิลลาซึ่งปลูกไว้มากกว่า 1.5 ล้านต้นบานเต็มพื้นที่อีกด้วย

 สวนมิฟุเนะยะมะ-ระคุเอ็น (Mifuneyama Rakuen Garden), ซะกะ (Saga)

  สวนมิฟุเนะยะมะ-ระคุเอ็น (Mifuneyama Rakuen Garden) ตั้งอยู่ในเมืองทะเคะโอะ (Takeo City) ซึ่งเป็นแหล่งอนเซ็นและงานเครื่องเคลือบพอร์ซเลนชื่อดัง  สวนแบบญี่ปุ่นที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่โตกว้างขวางแห่งนี้ ในฤดูใบไม้ผลิจะสวยงามด้วยซากุระ 2,000 ต้น และอาซาเลีย (Azalea) กว่า 200,000 ต้นผลิดอกบานสะพรั่งให้เราได้เพลิดเพลินกับความงามตามฤดูกาล ทัศนียภาพของดอกไม้นานาชนิดที่มีหน้าผาตัดของภูเขามิฟุ (Mt. Mifune) สูงตระหง่านอยู่เบื้องหลังช่างดูงดงามราวกับภาพเขียนชื่อดัง และภายในสวนก็มีร้านอาหารบริการ จึงสามารถใช้เวลาเพลิดเพลินอยู่ที่นี่ได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ในแต่ละฤดูกาลยังมีการจัดงานกิจกรรมต่างๆ รวมถึงเทศกาลประดับไฟใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย

 เฮาส์เทนบอช (Huis Ten Bosch), นางาซากิ (Nagasaki)

  เฮาส์เทนบอช (Huis Ten Bosch) เป็นสวนที่สามารถเพลิดเพลินกับความงามของดอกไม้ได้ทุกฤดูกาล เป็นธีมปาร์คที่แม้จะอยู่ในญี่ปุ่น แต่ก็ทำให้คุณรู้สึกราวกับกำลังท่องเที่ยวอยู่ในฮอลแลนด์หรือประเทศยุโรปอื่นๆ ในยุคกลาง ทั่วทั้งบริเวณถูกออกแบบให้เป็นเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ซึ่งมีพร้อมทั้งร้านอาหารและโรงแรม อีกทั้งยังเต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย ไฮไลท์สำคัญคือการปลูกดอกไม้เปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะเทศกาลชมดอกทิวลิปในฤดูใบไม้ผลิซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีการจัดอีเวนท์น่าสนใจตลอดทั้งปี ได้แก่

  Waterfall of Light ที่มีการประดับไฟถึง 1,300 ดวง
  Masquerade Party งานปาร์ตี้เต้นรำสวมหน้ากาก ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกัน
  Henn-na Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่พนักงานเป็นหุ่นยนต์ ที่สามารถค้างแรมภายในสวนสนุกอีกด้วย

 สวนดอกไม้คุจูฮะนะ (Kujuhana Park/Kuju Flower Park), โออิตะ (Oita)

  สวนสาธารณะคุจูฮะนะ (Kujuhana Park) ตั้งอยู่บนที่ราบสูงใจกลางภูมิภาคคิวชู (Kyushu) บริเวณเชิงเขาอะโซะ (Mt. Aso) ในฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงบนพื้นที่กว่า 130 ไร่ จะมีดอกไม้กว่า 5,000,000 ดอก จากกว่า 500 สายพันธุ์ผลิบานอวดดอกสวยให้เราได้ชม นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารภายในสวนที่มีเมนูบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นปรุงจากผักแสนอร่อยในท้องถิ่นไว้บริการลูกค้า ส่วนร้านค้าก็จะมีผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของจังหวัดโออิตะ (Oita) และสินค้าพวกเครื่องหอมให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย

  ภายในสวนดอกไม้คูจู (Kuju Hana Park) จะมีทางเดินขนาดใหญ่วนรอบทั่วทุ่งดอกไม้หลายชนิด เช่น ดอกลาเวนเดอร์ (lavender), บลูเบอร์รี่ (blue berries), ดอกทิวลิป (tulips), ดอกทานตะวัน, ดอกป้อปปี้ (poppies), ดอกมอสสีชมพู (Pink Moss) หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ชิบะซากุระ (Chibasakura) และอื่นๆ อีกหลายชนิด ซึ่งจะมีการจัดแปลงดอกไม้เอาไว้อย่างดี โดยจะรวมเอาชนิดที่บานพร้อมๆ กันมาไว้ด้วยกัน

 ภูเขาอะโซะ (Mt. Aso), คุมะโมโตะ (Kumamoto)

  ภูเขาอะโซะ (Mt. Aso) เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเกาะคิวชู (Kyushu) ในจังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto) มีขนาดใหญ่กินพื้นที่กว่า 100 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีเมืองชนบทเล็กๆและนาข้าว กระจายตัวกันอยู่ตามรอบนอกของภูเขาอะโซะ  หนึ่งในนั้นคือปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะ (nakadake) ซึ่งเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่สามารถเขาถึงได้ง่าย โดยทางถนนหรือกระเช้าไฟฟ้าภูเขาอะโซะ (Mt. Aso Ropeway) ขึ้นไปชมถึงใกล้ๆบริเวณปากกล่องภูเขาไฟได้ (ในกรณีที่เกิดภูเขาไฟระเบิดอาจมีการหยุดให้บริการ) บริเวณรอบๆ ภูเขาอะโซะเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมาย

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ได้แก่

  ทุ่งหญ้าคุซะเซนริ (Kusasenri) ทุ่งขนาดกว้างใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหญ้า เต็มไปด้วยฝูงวัวและม้าละลานตา ตรงกลางทุ่งแห่งนี้มีบึงน้ำขนาดใหญ่ 2 บึง
  ศาลเจ้าอะโซะ (Aso Shrine) ซึ่งเชื่อกันว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 2 พันปี และเป็นศาลเจ้าที่มีประตูทางเข้า (Romon Gate) แบบ 2 ชั้นซึ่งใหญ่ติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
  น้ำตกชิระอิโตะ (Shiraito Falls)
  พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอะโซะ (Aso Volcano Museum)
  อะโซะฟาร์มแลนด์ (Aso Farm Land) คือสวนสนุกในธีมสุขภาพ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและจะได้สัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์หลากหลายชนิด พร้อมที่พักรูปทรงแปลกตา

ข้อมูลจาก :  https://www.jnto.or.th/attractions/highlight-of-japan-all-area/kyushu/natural-scenery/